ufabet168
วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดพระศรีสรรเพชญ พระนครศรีอยุธยา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ทางเรา Papainaidii จะพาไปดูประวัติของวัดกัน เดิมในช่วงสมัยของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ได้ใช้เป็นที่ประทับ และต่อมา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้ทรงสร้าง พระราชมณเฑียร ขึ้นมาใหม่ ทางด้านตอนเหนือของวัด แล้วทรงโปรดเกล้าให้ยกเป็นเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อใช้ประกอบพิธีต่างๆ ที่มีสำคัญ

ของบ้านเมืองนั้นเอง วัดพระศรีสรรเพชญ จึงได้เป็นวัดในเขตพระราชวัง ที่ไม่มีพระสงฆ์ได้จำพรรษาอยู่นั้นเอง ซึ่งมีความแตกต่างกับ วัดมหาธาตุ ของ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่นั้นเอง

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

 

วัดมหาธาตุ ของจังวัดสุโขทัย วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดอยุธยา และ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทั้งสามวัดต่างก็ได้ ถูกสถาปนาขึ้น ในมูลเหตุที่เหมือนกันนั้นก็คือ สร้างเพื่อที่จะเป็นวัดประจำพระราชวังนั้นเอง ช่วงเวลาต่อมานั้น ในช่วงปี พ.ศ. 2035 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออก

เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และพระสถูปเจดีย์องค์กลางเพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ผู้เป็นพระเชษฐาหลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2042 พระองค์โปรดให้สร้างพระวิหารหลวงขึ้น

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

 

ในปีต่อมา พ.ศ. 2043 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ได้ทรงได้สร้างพระวิหารขึ้น และทรงหล่อพระพุทธรูปยืน ที่มีความสูง 8 วา หรือประมาณ 16 เมตร นั้นเอง ทรงได้สั่งให้หุ้มด้วยทองคำ ที่มีน้ำหนัก 286 ชั่ง หรือประมาณ 171 กิโลกรัมคะ และนำมาประดิษฐานไว้ในวิหาร ทรงได้ถวายพระนามว่า พระศรีสรรเพชญดาญาณ

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

 

ในช่วงสมัยของ รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหารา พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ทำการย้ายมาประดิษฐานของวัดพระเชตุพน และทรงบรรจุชิ้นส่วนต่างๆไว้ แล้วได้ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเจดีย์องค์ใหญ่ว่า พระเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ เจดีย์องค์ที่ 3 จะอยู่ถัดมาจากด้าน ทิศตะวันตก เจดีย์มีชื่อว่า พระเจดีย์บรรจุพระอัฐิ ซึ่งเป็นของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และเวลาต่อมา สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (ทรงเป็นพระราชโอรส) ได้ทรงโปรดให้สร้างขึ้น พระเจดีย์ทั้งสามองค์นี้ จะเป็นเจดีย์ที่ีมีวัฒธรรมจาก ลังกา นั้นเอง

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

 

ต่อมาในช่วงสมัยของ พระเจ้าทรงธรรม พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระที่นั่งจอมทอง ขึ้นที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กำแพงที่ได้ติดกับทางด้าน วิหารพระมงคล บพิตร เพื่อที่จะให้เป็น สถานที่ให้พระสงฆ์ศึกษา และบอกเล่าหนังสือพระสงฆ์นั้นเอง ช่องสมัยของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์ได้ทรงมีการบูรณะ ปฏิสังขรณ์วัดหลวงแห่งนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

 

ในสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ราชกาลที่ 4 นั้น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาโบราณราชธานินทร์ สมุหเทศาภิบาล มณฑลกรุงเก่าได้ดำเนินให้ ขุดสมบัติขึ้นจากกรุภายในเจดีย์ แล้วก็พบพระพุทธรูป และพบเครื่องทอง มากมาย และในสมัย และหลังจากนั้นมาก็มี จอมพล ป.พิบูลสงคราม ทำการบูรณะวัดนี้ขึ้นอีกครั้ง จนมีสภาพตั้งแต่นั้นมาจนที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน อาจมีทรุดโทรมไปบ้าง ตามกาลเวลา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

สรุป

วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือที่เรารู้จักอีกชื่อคือ วัดพระศรีสรรเพชญ อย่าที่เรา Papainaidii ได้กล่าวมาด้านบน ที่มีอดีตนั้น เป็นวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ ของจังหวัด อยุธยา ซึ่งก็ตั้งอยู่ที่ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในทาง ทิศเหนือ ของวิหารพระมงคลบพิตร ที่อยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ ของพระนครศรีอยุธยา ที่ได้สร้างขึ้นช่วงประมาณ ปี พ.ศ. 2035 โดยองค์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

วัดพระศรีสรรเพชญ์ นครศรีอยุธยา

 

 

วัดพระศรีสรรเพชญ มีจุดที่น่าสนใจที่สำคัญๆ ก็คือเจดีย์นั้นเอง เพราะว่าเป็นเจดีย์ทรงลังกา มีจำนวนสามองค์ ที่ได้วางตัวเรียงกัน ไปตลอดด้านทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตก ที่ได้สร้างขึ้นเป็นองค์แรก ของทางฝั่งตะวันออก โดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สร้างเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิ ของพระบาทสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ซึ่งเป็นพระราชบิดา ราวๆ ปี พ.ศ. 2035

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2042 นับย้อนไป 524 ปี ที่แล้ว (อัพเดทปี 2566) ก็ได้ทรงให้สร้างเจดีย์องค์ต่อมา ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 (องค์กลาง) ผู็ทรงเป็นพระเชษฐาต่างพระมารดาของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 นั้นเองและเจดีย์ทางด้านฝั่ง ตะวันตก ของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และ ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 นั้น ก็ได้ทรงสร้างเจดีย์อีกองค์ขึ้น ทางในด้าน ทิศตะวันตก ให้กับ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 พระราชบิดา และรวมเป็นสามองค์ตามที่เราเห็นในปัจจุบัน

หาข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่  ถนนศรีสรรเพชญ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 18.00 น. และมีอัตราการค่าเข้าชม (10-50 บาท) แบ่งเป็น ชาวไทย 10 บาท และชาวต่างชาติ 50 บาท

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม สถานที่ท่องเที่ยว อื่นๆ ได้ที่ พาไปไหนดี ครบจบในที่เดียวจ้าาาาา