อำเภอเขาค้อ
อำเภอเขาค้อ
ประวัติคร่าวๆ อำเภอเขาค้อ เป็นดินแดนที่มีเขตรอยต่อกับ 3 จังหวัด คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเลย ช่วงเมื่อปี 2508 ได้เกิดความขัดแย้งทางอุดมการจึงทำให้เกิดสงครามก่อการร้ายขึ้น โดยที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้ทำการยึดเอาพื้นที่ ที่เป็นป่าเขาใช้เป็นที่กบดานและได้ จึงทำให้ฝ่ายรัฐบาลนั้นยากที่จะปราบปรามได้
ฝ่ายรัฐบาล ได้ใช้ เขาค้อ นั้นเป็นพื้นที่จุดศูนย์กลางและกองทัพภาคที่ 3 (ค่ายสมเด็จพระนเรศร มหาราช) ในปัจจุบันนั้น ได้รับผิดชอบต่อสู้กับทางผู้ก่อการร้าย (ฝ่ายคอมมิวนิสต์) โดยได้ทำการจัดตั้งกองบัญชาการผสม 394 ขึ้น ณ สนามบิน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2511 ในปัจจุบันนั้นได้เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ และทะหาร ที่ 33 ซึ่งได้ทำการต่อสู้อย่างต่อเนื่องโดยได้ดำเนินการผ่านยุทธการที่สำคัญรวมทั้งหมมด 12 ครั้งด้วยกัน อย่างเช่น ยุทธการเกรียงไกร ยุทธการรามอสูร ยุทธการภูขี้เถ้า ฯลฯ เมื่อช่วงประมาณ พ.ศ. 2514-2515 ได้มีการเริ่มสร้างถนนแยกออกจากถนนพิษณุโลก-หล่มสัก ตรงบริเวร ก.ม. ที่ 100 จากบ้านแคป์สนไปยังบ้านเล่าลือ
ในปี พ.ศ. 2517 นั้น ได้ก่อสร้างถนนเพิ่มอีกหนึ่งสายโดยสร้างจากบ้านนางั่วไปถึงบ้านสะเดาะพง เพื่อที่จะเชื่อมกับถนนสายแรก แต่ก็โดยขัดขวางจากฝ่ายต่อต้านจนได้เกิดความรุนแรงทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากทั้งสองฝ่าย ในขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเสด็จฯเยี่ยมกองรบค่ายสฤษด์เสนา ที่ จังหวัดพิษณุโลก และทรงมีพระราชดำริที่จะให้สองข้างทางเป็นประโยชน์กับทางราษฎรทั่วๆไปนั้น มิใช่มีแต่กองทัพภาคที่ 3 เท่านั้น จึงได้ก่อตั้งหมู่บ้านยุทธศาสตร์พัฒนาขึ้น โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์บางส่วนเพื่อเป็นทุนในการดำเนินการครั้งแรก โดยได้ก่อตั้งเป็น “กองอำนวยการโครงการ” พัฒนาลุ่มน้ำเข็ก โดยมีหน้าที่หลักคือการสร้างเส้นทาง ทุ่งสมอ-เขาค้อ ลาดยางตลอดสาย และได้ฝึกอบรมและติดอาวุธราษฎรอาสาสมัครและได้จัดหาที่ดินทำกินให้กับราษฎร ให้จัดหาแหล่งน้ำ เพื่อเกษตร และได้เรียกโครงการนี้ว่า “โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก” เมื่อวันที่ 11 มันาคม พ.ศ. 2520 จากนั้นกระทรวงมหาดไทยได้เล็งเห็นของพื้นที่ จึงได้ออกประกาศกระทรวงมหาดไทยให้จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอเขาค้อขึ้น มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2527 เป็นต้นไป
อำเภอเขาค้อนั้น รวมพื้นที่ตำบลแคมป์สนทั้ง 12 หมู่บ้าน และตำบลทุ่งสมอทั้ง 8 หมู่บ้านนั้น ซึ่งอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอหล่มสัก และยังมีตำบลนางั่วอีก 3 หมู่บ้าน ในเขตการปกครองของอำเภอเมืองเพชรบูรณ์นั้น ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดนี้เป็นพื้นที่ตามโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็กเดิม ได้จัดตั้งเป็นกิ่งอำเภอเขาค้อซึ่งขึ้นตรงกับเขตการปกครองของอำเภอหล่มสักของจังหวัดเพชรบูรณ์ เหตุผลที่ได้ตั้งชื่ออำเภอเขาค้อนั้น เนื่องจากเป็นสถานที่ตั้งอำเภอ และตั้งอยู่ในบริเวรเขาค้อ โดยสภาพพื้นที่นั้นมีต้นค้อเป็นจำนวนมากและส่วนใหญ่ก็จะเป็นภูเขา และอีกเหตุผลสำคัญอีกอย่างคือ เขาค้อ นั้นเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วประเทศอีกด้วย
เขาค้อมีสภาพภูมิประเทศและอาณาเขตดังนี้
พื้นที่ส่วนใหญ่ของ เขาค้อ นั้นเป็นป่าและเนินเขาน้อย บางพื้นที่สูงชัน ในฤดูหนาวเขาค้อจะมีอากาศหนาวมากและในฤดูร้อนก็จะไม่ร้อนจัด โดยมีอุณภูมิเฉลี่ยแล้วประมาณ 3 องศา และในส่วนฤดูฝนนั้นก็จะมีฝนตกซุก ลำน้ำสำคัญคือ แม่น้ำเข็ก ลำห้วยเสลียงแห้ง ลำห้วยค้อ และลำห้วยสะเดาพง ทรัพยากรหลักๆเป็นป่าไม้และแร่ธาตุ
ในส่วนอาณาเขตนั้น ในทางทิศหนือ ได้ติดกับอำเภอนครไทยจังวัดพิษณุโลก ในทางทิศใต้ ติดกับอำเมืองเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ในทางทิศตะวันออก ได้ติดกับอำเภอหล่มสักและอำเภอเมือง ของจังหวัดเพชรบูรณ์ และในทางทิศสุดท้ายคือทิศตะวันตก ได้ติดกับอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นั้นเอง
ติตตามต่อได้ที่ พาไปไหนดี
